
- Product name
- Potassium Chloride 99%
- Trade name
- โพแทสเซียมคลอไรด์
- Chemical formula
- KCl
- Packaging size
- 25 kg/bag
คุณสมบัติและลักษณะทางกายภาพ :
เป็นเม็ดของแข็งสีขาวไม่มีกลิ่น มวลโมเลกุล 74.5513 กรัมต่อโมล จุดเดือด : 1413 °C , จุดหลอมเหลว : 772 °C ความหนาแน่น 1.98 g/cm³
ประโยชน์และการใช้งาน :
ในทางอุตสาหกรรมใช้โพแทสเซียมคลอไรด์ในการผลิตแบตเตอรี่ ใช้ในการหล่อโลหะผสมทองแดง เป็นสารป้องกันการกัดกร่อน
ในทางยาใช้โพแทสเซียมคลอไรด์รักษาอาการในผู้ป่วยที่มีปริมาณโพแทสเซียมในเลือดต่ำ
ในทางโภชนาการการบริโภคเกลือชนิดโพแทสเซียมคลอไรด์จะช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับโซเดียมที่มากเกินไปที่จะส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่นำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด แนวคิดการนำเกลือโพแทสเซียมมาใส่ในอาหารจึงเกิดขึ้น เพื่อลดการใช้เกลือปกติและลดปริมาณโซเดียมที่ผู้บริโภคได้รับจากผลิตภัณฑ์อาหาร และที่ต้องใช้เกลือชนิดนี้ก็ด้วย สองเหตุผล คือ
1. คนส่วนใหญ่ได้รับโพแทสเซียมอยู่ที่ประมาณ 77% – 95% ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ WHO แนะนำต่อวัน แต่ได้โซเดียมมากถึงสองเท่าของปริมาณที่ WHO แนะนำ (ปริมาณที่แนะนำคือ ไม่เกิน 2000 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่าเกลือแกง 5 กรัม หรือ 1 ชช.) และจากการสำรวจการบริโภคโซเดียมคลอไรด์ของประชากรไทย โดยกรมอนามัย ปี พ.ศ. 2550 พบว่า ประชากรไทยได้รับโซเดียมจากอาหารที่บริโภคสูงถึง 4,351.7 มิลลิกรัมต่อวัน
2. เกลือโพแทสเซียมนั้นปลอดภัยและมีประโยชน์ การศึกษาวิจัยพบว่า เกลือโพแทสเซียมช่วยลดระดับความดันโลหิตในผู้ใหญ่ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง โดยไม่มีผลข้างเคียงใดใดต่อระดับไขมันในเลือด ระบบการทำงานของไต และการหลั่งฮอร์โมนของต่อมหมวกไต แต่ในคนสุขภาพดีการใช้เกลือโพแทสเซียมแทนเกลือไม่เห็นประโยชน์ที่ชัดเจนมากนัก